12.12.2554

บทที่ 8


ติ๊ง...ต่อง !!!!
                ความเงียบของคฤหาสน์ถูกทำลายลงทันทีที่ออดด้านนอกถูกกด กาเบรียลหยิบนาฬิกาที่อยู่ในเสื้อนอกออกมาดูเวลาเล็กน้อยก่อนที่จะเก็บกลับเข้าไป               
                สวัสดีฮะ คุณกาเบรียลพอซที่เปิดประตูออกมากล่าวทักทายกาเบรียลที่ยืนรออยู่หน้าประตู
                อ้าว สวัสดีเจ้าหนู
เข้ามาก่อนซิฮะ นายท่านกำลังรออยู่
ทันทีที่กาเบรียลเดินเข้ามาภายในห้องโถงก็พบกับลูซิเฟอร์ยืนอยู่ที่หัวบันไดด้านบนเหมือนกับครั้งแรกที่ได้พบกัน
สวัสดีครับ คุณลูซิเฟอร์กาเบรียลกล่าวทักทายอย่างขี้เล่น
.....
ผมมาขอคำตอบแล้ว ตกลงว่าไงครับ
.....
.....
.....
ผมหวังว่าคุณจะกลับไปพร้อมกับผมนะครับ
ได้ ฉันจะไปลูซิเฟอร์เอ่ยขึ้นเบา ๆ ก่อนที่จะก้าวเดินลงจากบันได
ดีเลยครับ
แต่...
.....
ฉันจะพาเจ้านั่นไปด้วยลูซิเฟอร์พูดพร้อมกับหันไปมองพอซที่ยืนอยู่ด้านหลังกาเบรียล
เอ๊ะ!!!! นายท่าน
ไม่มีปัญหาครับ แต่ผมหวังว่าคุณจะมั่นใจกับสิ่งที่ขอมานะครับกาเบรียลพูดพร้อมกับส่งยิ้มอย่างขี้เล่นให้กับลูซิเฟอร์ก่อนที่จะหันหลังเดินไปที่ประตู
.....
งั้นเราไปกันเถอะครับ รถม้ารออยู่ด้านนอก
.....
นายท่านฮะ
ไม่ไปเหรอลูซิเฟอร์หันมาถามพอซที่ยืนนิ่งอยู่ก่อนที่จะเดินออกไปจากประตู
..................................................................................................................

รถม้าถูกขับออกจากตัวเมืองมุ่งไปตามทางเดินของชนบทที่โล่งกว้าง ก่อนจะถูกเลี้ยวลงไปตามทางที่ลาดชันและลงไปตามทางเรียบที่ถูกขนาบด้วยต้นไม้ใหญ่ แสงแดดในยามเช้าส่องผ่านแมกไม้ลงมายังพื้นดินที่ยังไม่ได้ถูกปูเป็นถนน
ไง ชอบเหรอเจ้าหนูกาเบรียลถามขึ้น เมื่อเห็นว่าพอซที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามดูชอบใจกับภาพด้านนอกของหน้าต่าง
ก็นิดหน่อยน่ะฮะ แต่ทำไมที่นี่ดูเงียบจังเลย
ที่นี่น่ะเป็นทางลัด ที่เราใช้ตัดไปยังองค์กร พวกคนนอกที่ไม่ใช่พวกเรา ไม่มีใครรู้หรอกครับ
 เอี๊ยด !!!!
เป็นเวลาไม่นาน รถม้าที่ขับมาตลอดแนวของต้นไม้ถูกจอดลงที่หน้าโบสถ์โทรม ๆ แห่งหนึ่งที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางป่า
ดูเหมือนเราจะต้องลงแล้วล่ะครับกาเบรียลส่งยิ้มให้กับสองคนก่อนที่จะเปิดประตูรถม้าลงไป
เฮ้อ...นั่งรถม้าตั้งนาน เมื้อย...เมื่อย...  คุณลูซิเฟอร์ก็คิดแบบนั้นด้วยรึเปล่าครับ
.....ลูซิเฟอร์ที่พึ่งจะก้าวลงจากรถม้าหันมามองกาเบรียลเล็กน้อยก่อนจะหันไปสนใจกับตัวโบสถ์ที่อยู่ตรงหน้า
งั้นเราเข้าไปข้างในกันเลยดีกว่ากาเบรียลหันมาส่งยิ้มให้ก่อนที่จะเดินนำเข้าไป
แอ๊ด...ด... เมื่อประตูถูกเปิดออกทำให้ทั้งสองที่ตามมาเห็นสภาพภายในของโบสถ์ แสงสลัว ๆ จากกระจกบานใหญ่ในสุดถูกสะท้อนลงกับพื้น สภาพของฝุ่นกับใยแมงมุมที่ห้อยระย้าอยู่ตามผนัง เพดานและข้าวของต่าง ๆ
จี๊ด ๆ จี๊ด... เสียงของหนูเจ็ดแปดตัวที่วิ่งไปมาระหว่างพื้นเริ่มทำให้พอซรู้สึกขนลุกเล็กน้อย
กาเบรียลที่เดินนำหน้าเข้ามาเริ่มจัดการดึงพรมผืนใหญ่ที่ปิดทับแผ่นไม้เก่าออก
ปึ้ง!!!!
ประตูลับที่ถูกซ่อนอยู่ใต้พรมถูกเปิดออก เผยให้เห็นบันไดเล็กที่ลงไปยังช่องทางเดินใต้ดิน
เรารีบไปกันเถอะครับ เราจะไปถึงที่โน่นก่อนพระอาทิตย์ตก ไม่งั้นเราคงแย่แน่ครับกาเบรียลหยิบไม้ขีดจากในกระเป๋าเสื้อนอก ออกมาจุดตระเกียงเล็กที่วางอยู่ตรงขั้นบันไดบนสุด ก่อนที่จะเดินลงไปตามขั้นบันได
เมื่อประตูด้านบนค่อย ๆ ถูกดึงลงมาปิด ทำให้ทั้งสามตกเข้าสู่ความมืดโดยมีเพียงแค่แสงไฟจากตระเกียงเท่านั้นที่จะสามารถนำทางพวกเขาได้ เสียงหยดน้ำจากด้านบน หยดลงบนพื้นอิฐเก่า ๆ ที่ถูกปูไว้ อย่างเป็นจังหวะด้วยความชื้นของหยดน้ำทำให้อุณหภูมิด้านล่างนี้เย็นพอสมควร
ทางเดินนี้เป็นท่อน้ำทิ้งเก่าน่ะครับ
.....ลูซิเฟอร์ที่เดินตามมาทอดสายตาไปตามรอยแตกของตัวกำแพงอิฐโดยไม่มีท่าทีว่าจะสนใจคำพูดของกาเบรียล
งั้นผมจะเล่ารายละเอียดขององค์กรอย่างคร่าว ๆ ให้ฟังแล้วกันนะครับ
.....
องค์กรของเราเป็นองค์กรลับที่ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อหลายปีก่อน พวกเราได้รวบรวมคนที่มีความสามารถเอาไว้มากมาย
.....
แต่ละคนที่มาอยู่ที่นี่ต่างมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน แต่ในความแตกต่างนั้นพวกเขากลับมีความต้องการเดียวกัน
การเป็นที่หนึ่งซินะลูซิเฟอร์ที่ดูไม่สนใจในตอนแรกนั้นเอ่ยแทรกขึ้นมา
ใช่ครับ คุณลูซิเฟอร์ การเป็นที่หนึ่ง
ทำไมเหรอฮะพอซที่เดินตามท้ายมาถามขึ้น
ก็เพื่อเป้าหมายอย่างที่ผมได้พูดเอาไว้กาเบรียล หันมายิ้มให้กับพอซก่อนที่จะหันกลับมาอธิบายต่อ
ฉะนั้นทุกคนที่นั้น จึงทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะได้ที่หนึ่งมาครอง...โดยเฉพาะกับเจ้าหนูกาเบรียลหยุดชะงักลงหันมองพอซอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แววตาที่ดูขี้เล่นของเขากลับเปลี่ยนเป็นแววตาที่ดูจริงจังมากขึ้น
.....
ถ้าเป็นไปได้ ตอนที่อยู่ที่นั้นอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวจะดีกว่า เพราะสำหรับผู้อ่อนแอก็คือเหยื่อ นี่เป็นกฎเพียงข้อเดียวของที่นั้น
หลังจากนั้นกาเบรียล  ก็นิ่งไปครู่หนึ่งก่อนที่เขาจะหันกลับไปสังเกตเห็นบันไดที่อยู่ตรงหน้า
ดูเหมือนเราจะมาถึงแล้วนะครับกาเบรียลส่งยิ้มให้กับพอซเล็กน้อยก่อนที่จะเอื้อมมือไปผลักประตูไม้จากด้านบนให้เปิดออก แสงสว่างจากภายนอกถูกส่องลงมาสู่ความมืดอีกครั้ง
บานประตูที่อยู่อีกฟากหนึ่งของกลางป่าทึบค่อย ๆ ถูกเปิดออก แสงสว่างจากด้านนอกเริ่มเล็ดรอดเข้าไปสู่ทางเดินใต้ดิน ก่อนที่ร่างของทั้งสามคนจะย่างก้าวขึ้นสู่พื้นดินอีกครั้ง
            ขอต้อนรับสู่ยามเย็นของป่าด้านหลังองค์กรนะครับ
                .....
          เออ...คือ...ป่าเหรอฮะพอซเอ่ยถามขึ้นอย่างแปลกใจ
                อ๋อ...สงสัยผมจะลืมบอกพวกคุณไป ทางเดินจากโบสถ์นั้นจะถูกเชื่อมมาที่ป่าแห่งนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวขององค์กร พวกเราจะต้องระวังเรื่องความปลอดภัยเอาไว้น่ะครับ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น
          .....
                .....
                งั้นผมว่าเราควรรีบไปก่อนที่มันจะมืดดีกว่านะครับ เดี๋ยวเราเดินตรงไปอีกนิดก็จะถึงแล้ว
ว่าแล้วกาเบรียลก็เริ่มพาลูซิเฟอร์และพอซเดินลัดเลาะไปตามแนวของต้นไม้ใหญ่อย่างชำนาญ ก่อนที่พวกเขาจะมายืนอยู่ที่ด้านหลังของอาคารทรงโบราณสีขาวขนาดใหญ่
ถึงแล้วล่ะครับ
.....
.....
ก่อนอื่นผมจะขอแนะนำตัวเองอีกรอบอย่างเป็นทางการแล้วกันนะครับ
.....
.....
ผม...กาเบรียล ดิสเซ็นต์ ทำหน้าที่เป็นผู้คอยดูแลเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ภายในองค์กรแห่งนี้ครับกาเบรียลโค้งตัวลงเล็กน้อยอย่างนอบน้อม
.....
.....
งั้นต่อไป ผมจะเริ่มพาพวกคุณไปที่ห้องพักและเริ่มแนะนำเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับที่นี่ให้ฟังระหว่างทางแล้วกันนะครับ
.....
.....
บริเวณทั้งหมดของช่วงตึกที่เป็นสีขาวนี้ทุกอย่างจัดว่าเป็นอาณาเขตทั้งหมดขององค์กร ส่วนเหล่าผู้คนที่เดินผ่านไปมานั้นทุกคนล้วนจัดว่าเป็นสมาชิกของที่นี่
                กาเบรียลพาลูซิเฟอร์และพอซเข้ามาภายในตัวอาคาร ทำให้พวกเขาได้พบเห็นสมาชิกคนอื่น ๆ มากขึ้น ก่อนที่สายตาของลูซิเฟอร์จะไปสะดุดเข้ากับคนกลุ่มหนึ่งที่สวมผ้าคลุมสีขาวเดินไปมาอยู่บนระเบียงของชั้นสี่
 พวกนั้นเขาเรียกตัวเองว่าสาวกผู้รับใช้ต่อพระเจ้าครับกาเบรียลเอ่ยขึ้นพร้อมกับเงยหน้าไปมองก่อนที่จะหันกลับมาหาลูซิเฟอร์
.....ลูซิเฟอร์ละสายตาออกมาจากระเบียงชั้นสี่หันลงมามองกาเบรียล
พวกนั้นจัดได้ว่าเป็นผู้บุกเบิกขององค์กรเราเลยก็ว่าได้ แต่พวกเขาไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์กับใครเขาหรอกครับ
แล้วทำไมพวกเขาถึงอยู่ด้วยกันล่ะฮะ
ที่นี่น่ะ ไม่ใช่ว่าจะมีแต่พวกที่ต่างคนต่างอยู่เสมอไปนะครับ ถึงแม้ว่าคนที่นี่จะเก่งกันทุกคน แต่ในหมู่คนเก่ง ก็ต้องมีคนเก่งกว่า และด้วยเหตุนี้ ทำให้มีพวกที่คอยจับกันเป็นกลุ่มเพื่อหลายเหตุผลอย่างเช่น พวกอ่อนแอก็จะอยู่รวมกันเพื่อความแข็งแกร่ง หรือไม่ก็เป็นพวกที่เคยแพ้ในการต่อสู้แล้วยังรอดมาได้ก็กลายเป็นลูกไล่เขาบ้างก็มีครับ
.....
แต่เหตุผลเหล่านั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่ง พวกเขาเหล่านั้นมีเหตุผลบางอย่างที่ต้องอยู่ด้วยกัน ซึ่งเหตุผลนั้นก็ยังคงถูกเก็บเป็นความลับ ไม่มีใครรู้นอกจากตัวของพวกเขาเอง
.....
.....
งั้นเราไปต่อกันเลยดีกว่าครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น